img

กรมการค้าต่างประเทศสรุปส่งออกข้าวปี 61 ทำได้ 11.13 ล้านตัน มูลค่าพุ่งกว่า 1.8 แสนล้านบาท เหตุไม่มีสต๊อกกดดันราคา หลังระบายไปเกลี้ยงทั้ง 16.84 ล้านตัน คาดปี 62 ลดลงเล็กน้อย แต่ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัน ระบุแม้ปริมาณลด แต่ราคายังดี จากการเร่งผลักดันส่งออกข้าวคุณภาพดี ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าว พร้อมลุยขยายตลาดต่อเนื่อง พร้อมถกจีนซื้อข้าวจีทูจีแสนตันที่ 8 หาตลาดรองรับผลผลิตให้ข้าวไทย

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2561 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้ปริมาณ 11.13 ล้านตัน ลดลง 3.36% มูลค่า 5,623 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10% และคิดเป็นเงินบาท 180,413 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% ซึ่งการส่งออกข้าว แม้ปริมาณจะลดลง แต่ราคาก็ปรับเพิ่มขึ้นทั้งเงินเหรียญสหรัฐ และเงินบาท เพราะไม่มีสต๊อกข้าวมากดทับ ทำให้ผู้ซื้อไม่สามารถกดดันในเรื่องราคาได้ ตลาดข้าวไทยจึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และส่งผลดีต่อราคาข้าวส่งออกและราคาข้าวเปลือกในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น

“ในปี 2561 กรมฯ ได้ระบายข้าวที่มีอยู่ในสต๊อกจนหมด ทำให้ตั้งแต่ที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาเดือนพ.ค.2557 ถึงธ.ค.2561 ได้ระบายข้าวที่ผ่านการตรวจนับและจัดระดับคุณภาพรวม 16.84 ล้านตัน มูลค่า 145,080 ล้านบาท ซึ่งส่งผลดีไม่ต้องแบกภาระค่าเก็บสต๊อกเดือนละกว่า 1 พันล้านบาท และยังส่งผลดีต่อราคาข้าวในประเทศ”

นายอดุลย์กล่าวว่า สำหรับปี 2562 กรมฯ ประเมินว่าการส่งออกข้าวจะลดลงจากปี 2561 เล็กน้อย แต่ไม่น่าจะต่ำกว่า 10 ล้านตัน โดยในเรื่องของราคายังมั่นใจว่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะกรมฯ มีแผนที่จะส่งเสริมและผลักดันการส่งออกข้าวคุณภาพดี ข้าวที่มีคุณลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวสี ข้าวออร์แกนิก ข้าว กข 43 เป็นต้น รวมถึงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าว ซึ่งสามารถทำราคาได้ ส่วนข้าวที่ต้องแข่งขันกับคู่แข่ง อย่างข้าวเจ้า ก็มั่นใจว่าจะทำตลาดสู้ได้ เพราะข้าวไทยมีคุณภาพดีกว่า ผู้ซื้อให้การยอมรับ โดยมั่นใจว่าตลาดส่งออกข้าวในภาพรวมของปีนี้ยังดี ไม่ได้แย่เหมือนที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกังวลว่าจะถูกคู่แข่งแย่งตลาด จากการที่ราคาข้าวไทยสูงขึ้น รวมทั้งมีผลกระทบจากเงินบาทแข็ง เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ยังมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด

สำหรับแผนการผลักดันส่งออกข้าวในปี 2562 กรมฯ จะเร่งขยายตลาดสำคัญในเอเชีย เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และภูมิภาคอื่นๆ เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกา และแคนาดา , จัดงานประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention 2019 ซึ่งเป็นเวทีให้คนในวงการค้าขายมาพบปะกัน และจะเกิดประโยชน์ต่อการค้าข้าวของไทย รวมทั้งจะเร่งขยายตลาดให้กับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากข้าว ทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดกำลังจะขยายเข้าสู่ตลาดออนไลน์ในจีน

นอกจากนี้ จะเพิ่มการอำนวยความสะดวกในการส่งออกข้าว โดยทำการเชื่อมโยงการออกใบรับรองมาตรฐานสินค้ากับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในรูปแบบคู่ขนานภายในเดือนม.ค.2562 ทำให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบอนุญาตได้ทั้งที่กรมฯ และที่สภาหอฯ ได้แก่ ข้าวโพด ถั่วเขียว ถั่วเขียวผิวดำ ข้าวฟ่าง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ปลาป่น ข้าวหอมมะลิไทย ปุยนุ่น เป็นต้น และยังจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพหอมมะลิไทย ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยจะตรวจสอบสถานที่จัดเก็บข้าว สุ่มตรวจก่อนส่งออก และสุ่มตรวจตัวอย่างข้าวหอมมะลิไทยที่จำหน่ายในตลาดต่างประเทศด้วย

ส่วนความคืบหน้าการขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับรัฐบาลจีน กรมฯ จะส่งมอบปริมาณแสนตันที่ 7 ให้กับจีนครบภายในเดือนม.ค.2562 และกำลังอยู่ระหว่างเสนอให้ COFCO พิจารณาเจรจาราคาซื้อขายข้าว 1 แสนตันที่ 8 ต่อไป เพื่อหาคำสั่งซื้อรองรับผลผลิตข้าวที่กำลังออกสู่ตลาด และตั้งเป้าจะเจรจาให้จีนซื้อข้าวจีทูจีครบตามสัญญา 1 ล้านตันภายในปี 2562 นี้

***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit

ที่มา….https://www.commercenewsagency.com/news/1751