img

กรมการค้าต่างประเทศเผยผลการจัดทัพภาคเอกชนบุกขยายตลาดข้าวที่สิงคโปร์และฮ่องกงได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้าตามเป้า คาดสั่งซื้อข้าวภายใน 1 ปีกว่า 43 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าว 3.2 แสนเหรียญสหรัฐ ระบุข้าวคุณภาพดี ข้าวลักษณะพิเศษ ยังขายได้ดี ส่วนผลิตภัณฑ์จากข้าว ทั้งซุปข้าวกล้องงอกออร์แกนิก ลิปสติก เซรั่มบำรุงผิวจากสเต็มเซลล์ข้าว ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะจากข้าวไทย กระแสตอบรับดีเกินคาด

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจัดคณะผู้ประกอบการข้าวไทยและผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวของไทย จำนวน 25 ราย เดินทางไปขยายตลาดที่สิงคโปร์และฮ่องกง ระหว่างวันที่ 18-22 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา ว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยผู้ประกอบการไทยได้มีการเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้จัดหาวัตถุดิบของสิงคโปร์และฮ่องกงกว่า 75 ราย ปรากฏว่าสามารถตกลงซื้อขายสินค้าได้เป็นจำนวนมาก โดยตลาดสิงคโปร์คาดว่าภายใน 1 ปี จะมีคำสั่งซื้อข้าวมูลค่าประมาณ 13 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวมูลค่าประมาณ 170,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ฮ่องกง คาดการว่าจะมีคำสั่งซื้อข้าวมูลค่าประมาณ 30.42 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าวมูลค่าประมาณ 150,000 เหรียญสหรัฐ

สำหรับข้าวคุณภาพดีที่ได้รับความสนใจ พบว่า ข้าวหอมมะลิยังคงได้รับความนิยมทั้งในตลาดสิงคโปร์และฮ่องกง แต่ข้าวคุณลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวอินทรีย์และข้าวสีชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิแดง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าว กข 43 เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จัก ส่วนผลิตภัณฑ์จากข้าวที่ได้รับความสนใจ เช่น ซุปข้าวกล้องงอกออร์แกนิก ลิปสติก เซรั่มบำรุงผิวจากสเต็มเซลล์ข้าว ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะจากข้าวไทย เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังพบว่า ผลจากการที่ผู้บริโภคตื่นตัวกับกระแสรักสุขภาพ และสินค้าอินทรีย์ ทำให้ข้าวที่ปลอดภัยจากสารเคมี ปลอดกลูเตน ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น รวมถึงตลาดยังมีความต้องการสินค้าที่สะดวก พร้อมปรุงมากขึ้น ซึ่งตรงกับที่กระทรวงพาณิชย์กำลังส่งเสริมและผลักดันให้มีการผลิตสินค้าปลอดสารพิษเพิ่มมากขึ้น และสินค้าที่มีนวัตกรรม เช่น ข้าวสวยพร้อมรับประทาน น้ำนมข้าวยาคูออร์แกนิค อาหารเสริมจากข้าวไทย ซุปและซีเรียลข้าวกล้องงอกออร์แกนิค เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

น.ส.ชุติมากล่าวว่า ในการเดินทางไปครั้งนี้ ได้มีการสำรวจตลาดข้าวไทยในห้างสรรพสินค้าที่สิงคโปร์ พบว่า ข้าวหอมมะลิยังครองความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง แม้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง ส่วนข้าวอินทรีย์และข้าวสีชนิดต่างๆ กำลังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากกระแสรักสุขภาพกำลังมาแรง ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าว เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำนมข้าว เครื่องดื่มกึ่งสำเร็จรูปจากข้าว ก็มีวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มมากขึ้น

ส่วนที่ฮ่องกง ข้าวคุณภาพดีของไทย และข้าวคุณลักษณะพิเศษ ยังครองความเป็นที่หนึ่งในตลาดฮ่องกงได้เหมือนเดิม และยังมีโอกาสในการส่งออกสู่ตลาดจีน เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนแผ่นดินใหญ่ส่วนใหญ่มองว่าชาวฮ่องกงเป็นกลุ่ม Trend Setter ทำให้สินค้าและบริการที่เข้าสู่ตลาดฮ่องกงมีแนวโน้มว่าจะสามารถเข้าสู่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ได้ด้วย

***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit