ดีเคเอสเอชขยายและยกระดับศูนย์วิจัยทางนวัตกรรม

ดีเคเอสเอชขยายและยกระดับศูนย์วิจัยทางนวัตกรรม สำหรับผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย

กรุงเทพฯ–23 ม.ค.–ดีเคเอสเอช

ดีเคเอสเอช ผู้นำในการให้บริการด้านการขยายตลาดที่มุ่งเน้นในภูมิภาคเอเชีย ได้ขยายและยกระดับศูนย์วิจัยทางนวัตกรรม สำหรับผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มให้เป็นศูนย์ฯที่มีความทันสมัย โดยตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร การขยายศูนย์ฯแห่งนี้จะช่วยให้ดีเคเอสเอชสามารถเสริมสร้างประสิทธิภาพในการบริการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับคู่ค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอุตสาหกรรมขนมหวาน เบเกอรี่ เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์นม อาหารแปรรูป และอาหารเสริม

หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ดีเคเอสเอช ผู้นำในการจัดจำหน่ายสารประกอบอาหารและสารเคมีชนิดพิเศษรวมถึงบริการด้านการขยายตลาด ได้ลงทุนครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยขยายและยกระดับศูนย์วิจัยทางนวัตกรรม สำหรับผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย ให้เป็นศูนย์ฯที่มีความทันสมัยในกรุงเทพมหานคร

ศูนย์นวัตกรรมฯ แห่งนี้เชี่ยวชาญในการพัฒนาสูตรอาหารและเครื่องดื่มและการให้บริการทางด้านเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญแก่คู่ค้าทางธุรกิจในประเทศไทย ปัจจุบัน ศูนย์นวัตกรรมฯ ได้พัฒนาสารตั้งต้นกว่า 150 ชนิดและสูตรกว่า 200 สูตรต่อปี ทั้งผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เช่น เค้กมาม่อน มัฟฟินน้ำตาลต่ำ และครัวซองต์ปราศจากไขมันทรานส์ เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่มจากผักและผลไม้ รวมถึงกรีกโยเกิร์ต และผลิตภัณฑ์อาหารคาว เช่นไส้กรอกไขมันต่ำ มายองเนสปราศจากไข่ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโซเดียมต่ำ

ศูนย์นวัตกรรมฯ นี้ยังได้เข้าร่วมกับเครือข่ายศูนย์นวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มของดีเคเอสเอชถึง 7 แห่ง (รวมทั้งห้องปฏิบัติการ 14 แห่ง) ในเอเชียและยุโรป ศูนย์วิจัยแห่งนี้พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์สำหรับใช้ในการพัฒนาและวิเคราะห์ที่ทันสมัยอันดับต้น ๆ ในแวดวงอุตสาหกรรมนี้ โดยให้บริการเฉพาะด้านหลากหลายรูปแบบ เช่น การประยุกต์สูตร การคิดค้นผลิตภัณฑ์และสนับสนุนด้านการพัฒนา การทดสอบความเสถียร การประเมินทางประสาทสัมผัส การทดสอบนำร่อง และการฝึกอบรมเชิงวิชาการ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญของศูนย์นวัตกรรมฯ ยังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับทีมทำงานด้านกฎระเบียบโดยเฉพาะ เพื่อให้คำปรึกษาและสนับสนุนเพื่อรองรับกฎระเบียบที่มีความซับซ้อนในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทย

มร. เบน ฮอปกินส์ รองประธานฝ่ายอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ดีเคเอสเอช กล่าวว่า “เราได้ลงทุนครั้งสำคัญโดยการขยายและยกระดับศูนย์วิจัยนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของเรา ศูนย์แห่งใหม่นี้พร้อมสรรพไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือที่มีคุณภาพสูงที่ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยทักษะของเรา จะช่วยส่งเสริมการให้บริการเชิงวิชาการแก่ฐานลูกค้าที่กำลังเติบโตขึ้น และช่วยให้เราสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจในฐานะคู่ค้าเชิงกลยุทธ์แก่คู่ค้าของเรา”

บุคคลในภาพจากซ้ายไปขวา

มร. มาเธียส เกรเกอร์ รองประธานกรรมการบริหาร หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย)

มร. นาตาเล่ คาปรี หัวหน้าฝ่ายประสานงานธุรกิจ หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ดีเคเอสเอช

มร. สเตฟาน บุทซ์ ประธานกรรมการบริหาร ดีเคเอสเอช

มร. โทมัส ซุล หัวหน้าฝ่ายประสานงานธุรกิจ หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ดีเคเอสเอช

มร. เบน ฮอปกินส์ รองประธานฝ่ายอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ดีเคเอสเอช

มร. ดักลาส ฮัมฟรีย์ ประธานกรรมการบริหาร ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย)

เกี่ยวกับดีเคเอสเอช

ดีเคเอสเอชเป็นผู้นำด้านการให้บริการด้านการขยายตลาด ซึ่งมุ่งเน้นในภูมิภาคเอเชีย ดังคำนิยามที่ว่า “บริการด้านการขยายตลาด” ดีเคเอสเอช ช่วยบริษัทและแบรนด์ต่างๆ สามารถขยายธุรกิจได้ในตลาดใหม่ หรือในตลาดที่มีอยู่เดิม บริษัทได้จดทะเบียนใน SIX Swiss Exchange ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2555 เป็นบริษัทระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซูริค พร้อมทั้งมีสำนักงานสาขา 780 แห่งใน 36 ประเทศ โดย 750 แห่งอยู่ในเอเชีย มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญจำนวน 30,320 คน ดีเคเอสเอชมียอดขายสุทธิในปี 2559 จำนวน 1.05 หมื่นล้านฟรังก์สวิส ดีเคเอสเอชก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2408 ด้วยการสืบทอดวัฒนธรรมอันแข็งแกร่งแบบสวิส บริษัทมีประวัติอันยาวนานในการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและหยั่งรากลึกในชุมชนและธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ดีเคเอสเอช เป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายสารเคมีชนิดพิเศษและการให้บริการด้านการขยายตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอุตสาหกรรม ครอบคลุมทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และทั่วเอเชีย หน่วยธุรกิจฯ จัดหา พัฒนา ทำการตลาด และจัดจำหน่าย สารเคมีและส่วนผสมชนิดพิเศษหลากหลายประเภทสำหรับผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์อาหาร และแอพพลิเคชันต่าง ๆ ทางด้านอุตสาหกรรม นอกจากนี้ หน่วยธุรกิจฯ ยังพัฒนาแนวคิดและแอพพลิเคชันใหม่ ๆ ที่ทันสมัย ณ ศูนย์นวัตกรรม 27 แห่งทั่วโลก มีสำนักงานสาขา 80 แห่งใน 31 ประเทศ และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญประมาณ 990 คน สร้างรายได้สุทธิ 870.6 ฟรังก์สวิส ในปีพ.ศ. 2559

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2771183