“พาณิชย์”เผยส่งออกเดือนก.พ.62 กลับมาบวก 5.91% หลังราคาน้ำมันโลกเพิ่ม สงครามการค้าลดความตึงเครียด ค่าบาทเริ่มอ่อน หากหักมูลค่าส่งออกทองคำ น้ำมัน อาวุธ ออก ติดลบ 4.9% ส่วน 2 เดือน เพิ่ม 0.16% ระบุตลาดสหรัฐฯ พุ่งแรง เหตุไทยส่งอาวุธที่นำเข้ามาซ้อมรบกลับคืน ส่วนจีน โตจากการซื้อขายอี-คอมเมิร์ซ โดยเฉพาะผลไม้สด เครื่องสำอาง อัญมณี เล็งปรับเป้าส่งออกใหม่ แต่ “ชุติมา” ขอถก “สมคิด” ก่อน

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือนก.พ.2562 ว่า การส่งออกมีมูลค่า 21,553.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.91% เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.2561 เป็นการกลับมาขยายตัวเป็นบวก หลังจากเดือนม.ค.2562 ติดลบสูงถึง 5.72% โดยเมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 678,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.48% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 17,519.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 10.03% เป็นการติดลบหลังจากเดือนม.ค.2562 เพิ่มขึ้น 13.96% โดยเมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 558,778 ล้านบาท ลดลง 10.38% ส่งผลให้มีดุลการค้าเกินดุล 4,034.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกินดุล 119,731 ล้านบาท

ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 5.91% เมื่อหักมูลค่าการส่งออกสินค้าทองคำ น้ำมัน ที่มีความผันผวนสูง และอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ไทยนำเข้ามามากในเดือนม.ค.-ก.พ.2562 เพื่อซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ ออก จะติดลบถึง 4.9% ส่วนในช่วง 2 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ก.พ.) การส่งออกมีมูลค่า 40,547.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.16% และเมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 1.295 ล้านล้านบาท ลดลง 0.16% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 40,545.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.20% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 1.315 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.17% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 2 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เมื่อคิดเป็นเงินบาทขาดดุล 20,829 ล้านบาท

สำหรับการส่งออกเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้น มาจากหลายปัจจัย เช่น ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มลดความตึงเครียดลง ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนลง การแก้ปัญหาแรงงานของไทยที่ทำให้ไทยหลุดจากใบเหลืองจากการทำประมงที่ผิดกฎหมายของสหภาพยุโรป (ไอยูยู) และสถานะด้านแรงงานของไทยในรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯดีขึ้น ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้การส่งออกสินค้าไทยไปประเทศพัฒนาแล้ว และยังมีสินค้าดาวรุ่งหลายรายการ ที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นมาก เช่น ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งแปรรูป เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ที่ช่วยผลักดันการส่งออกในเอเชีย

ส่วนปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง ยังคงเป็นค่าเงินบาทแข็งค่า ที่ทำให้ราคาสินค้าไทยแพงขึ้น และความสามารถการแข่งขันลดลง และการมีผลใช้บังคับของความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ของประเทศคู่แข่ง เช่น เอฟทีเอสหภาพยุโรป-เวียดนาม ที่อาจกระทบต่อความสามารถในการส่งออกของไทย

น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า ในเดือนก.พ.2562 ตลาดสหรัฐฯ ที่ส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 97.3% เพราะไทยส่งออกอาวุธที่นำเข้ามาซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯกลับคืน รวมถึงไทยยังส่งออกสินค้ากลุ่มที่ขึ้นภาษีจากจีนเพิ่มขึ้น ทั้งเครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์ยางพารา รถยนต์และส่วนประกอบ ส่วนตลาดจีน ติดลบเพียง 1.5% จากเดือนม.ค.2562 ที่ติดลบสูงถึง 16.7% เพราะมีการส่งออกผลไม้สด เพิ่มขึ้นถึง 128%, อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่ม 540%, เครื่องสำอาง สบู่ เพิ่ม 377% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากการขายผ่านออนไลน์

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ในไตรมาส 2 การส่งออกจะดีขึ้น เพราะสงครามการค้าน่าจะหาทางออกที่ดีได้ และทำให้บรรยากาศการค้าโลกดีขึ้นได้ ส่วนเป้าหมายมูลค่าการส่งออกไทยปีนี้ ขณะนี้ ยังคงยืนยันการขยายตัวที่ 8% จากปี 2561 แต่น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ จะขอหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาสถานการณ์ส่งออก และพิจารณาว่าจะทบทวนเป้าหมายใหม่หรือไม่

***ติดตามข่าวสารพาณิชย์แบบฉับไว ส่งตรงถึงมือถือได้ที่ http://line.me/ti/p/%40uld0329i
***ติดตามข่าวสารพาณิชย์ ผ่านทวิตเตอร์ https://twitter.com/CNAOnlineTwit