กรมการค้าต่างประเทศเผยยอดส่งออกข้าวไทย 11 เดือน ปริมาณ 10.09 ล้านตัน ลดลง 3.58% ส่วนราคาพุ่งแรงเพิ่ม 11.25% คาดทั้งปีส่งออก 11 ล้านตันทำได้แน่ เหตุไทยกำลังส่งมอบข้าวให้กับจีนและฟิลิปปินส์ และยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้านราคาข้าวหอมมะลิยังแรงไม่ตก รวมถึงข้าวขาวที่สู้เวียดนามได้

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 11 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-พ.ย.) ตามสถิติที่ได้รับจากกรมศุลกากรและใบอนุญาตส่งออกข้าว มีปริมาณรวม 10.09 ล้านตัน ลดลง 3.58% โดยมีมูลค่า 5,137 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.25% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 164,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.03% ซึ่งถือเป็นการส่งออกที่ยังคงขยายตัวอยู่ในระดับสูง และมั่นใจว่าการส่งออกทั้งปีจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 11 ล้านตัน แต่ในด้านราคา ถือว่าไทยขายข้าวได้ราคาดีมาก โดยขายได้ราคาสูงขึ้น ทั้งในรูปเงินเหรียญสหรัฐ และเงินบาท

สำหรับปัจจัยที่จะทำให้ไทยส่งออกข้าวเป็นไปตามเป้าหมาย 11 ล้านตัน เนื่องจากในขณะนี้ ไทยกำลังอยู่ระหว่างการส่งมอบข้าวตามสัญญาซื้อขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับจีนในส่วนของแสนตันที่ 7 ตามสัญญา 1 ล้านตัน และส่งมอบให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ 8 หมื่นตัน ยังไม่รวมคำสั่งซื้อที่ภาคเอกชนประมูลได้อีก 1.44 แสนตัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการส่งมอบ และยังมีคำสั่งซื้อข้าวจากประเทศในกลุ่มแอฟริกาใต้ที่สั่งซื้อเข้ามาด้วย

“มั่นใจว่าการส่งออกข้าวในช่วงที่เหลืออีก 1 เดือน ถ้าจะทำให้ได้ตามเป้า ก็ต้องส่งออกให้ได้ประมาณ 1 ล้านตัน ซึ่งคิดว่ามีความเป็นไปได้สูง เพราะปกติ การส่งออกในช่วงท้ายๆ ของปี ไทยส่งออกได้เดือนละ 9 แสนถึง 1 ล้านตันอยู่แล้ว ยิ่งมีคำสั่งซื้อข้าวจีทูจีมารองรับ รวมกับข้าวที่ภาคเอกชนส่งออกปกติ มั่นใจว่าเป็นไปได้แน่นอน แต่ถ้าไม่ได้ ก็ใกล้เคียง”นายอดุลย์กล่าว

นายอดุลย์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ราคาข้าว ราคาส่งออกยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยราคาข้าวหอมมะลิเฉลี่ยตันละ 1,158 เหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นราคาที่สูง แต่ไทยก็ยังส่งออกได้ เพราะผู้ซื้อมั่นใจในคุณภาพข้าวของไทย และรู้ว่าปีนี้ผลผลิตข้าวหอมมะลิมีปริมาณจำกัด ทำให้มีการสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 400 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับข้าวของเวียดนาม ทำให้ผู้ซื้อหันมาซื้อข้าวไทยเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ผลจากราคาข้าวส่งออกที่ทรงตัวสูง ส่งผลดีต่อราคาข้าวเปลือกภายในประเทศ ทำให้เกษตรกรขายข้าวได้ราคาดีขึ้น โดยข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 1.6-1.7 หมื่นบาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 8 พันบาท และรัฐบาลยังมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาด ทั้งเงินค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวไร่ละ 1,500 บาท ช่วยค่าฝากเก็บตันละ 1,000 บาท กรณีไม่มียุ้งฉาง และตันละ 1,500 บาทกรณีมียุ้งฉาง ไม่จำกัดปริมาณ ซึ่งช่วยชะลอการขายข้าวในช่วงต้นฤดู และทำให้ราคาไม่ตกต่ำ

ที่มา https://www.commercenewsagency.com/news/1649