ผู้ส่งออกข้าวในเอเชียแข่งขันดุเดือดเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดข้าว เปิดช่องเกิดสงครามราคา ขณะอินเดีย เวียดนาม เร่งเพิ่มปริมาณส่งออกข้าวในตลาดโลกเพื่อสนับสนุนเกษตรกรในประเทศ พร้อมเร่งเกษตรกรปลูกผลผลิตข้าวเพิ่ม
ประเทศผู้ส่งออกข้าวในเอเชียหลายประเทศ กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดข้าวโลก ขณะอินเดีย เวียดนาม เร่งเพิ่มปริมาณส่งออกข้าวในตลาดโลกเพื่อสนับสนุนเกษตรกรในประเทศ พร้อมเร่งเกษตรกรปลูกผลผลิตข้าวเพิ่ม ส่วนไทยมีแนวโน้มว่าจะส่งออกข้าวลดลงเมื่อเทียบกับเวียดนามและอินเดีย
ขณะนี้ ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่สุดของโลกมานานกว่า 3 ทศวรรษ กำลังเจอปัญหาส่งออกข้าวไปขายในตลาดโลกได้ลดลง โดยกระทรวงพาณิชย์ของไทย ระบุว่า ยอดส่งออกข้าวของไทยในปี 2561 ลดลงเหลือ 11 ล้านตัน จาก 11.6 ล้านตันในปี 2560 และในปีนี้ มีแนวโน้มที่ปริมาณส่งออกข้าวของไทยจะลดลงเหลือ 10 ล้านตัน
ด้านบรรดาผู้ส่งออกข้าวของไทยมองแง่ร้ายมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการส่งออกข้าวในปีนี้ โดยคาดการณ์ว่าจะส่งออกข้าวลดลงเหลือ 9-9.5 ล้านตัน โดยปัจจัยเสี่ยงมาจากภายนอก
ขณะที่ข้อมูลการวิเคราะห์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ ระบุว่า ในปี 2561-2562 สหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกข้าวอันดับ 2 ของไทย มีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า และไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะถูกทดแทนด้วยข้าวจากประเทศคู่แข่งที่มีราคาต่ำกว่า
การเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาด้านราคาของประเทศคู่แข่ง เช่น การประชาสัมพันธ์เอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทย รวมทั้งการเน้นย้ำความแตกต่างของคุณภาพให้กับผู้บริโภคในระดับโลก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันดำเนินการ รวมทั้งการพิจารณานำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ เช่น การนำบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้ในการสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในอาหารและแหล่งกำเนิดสินค้า การตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตร อาจเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยยกระดับมาตรฐาน และเพิ่มโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ส่งออกไทยในการส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ
ปัจจุบัน อินเดีย และเวียดนาม ที่ถือเป็นคู่แข่งการส่งออกข้าวสำคัญของไทยในตลาดโลก ได้พัฒนาศักยภาพในการผลิตและพัฒนาพันธุ์ข้าวที่หลากหลายและราคาที่ต่ำกว่าไทย แม้ว่าไทยจะเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวที่มีศักยภาพและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลกไทยก็ยังต้องพัฒนาสายพันธุ์ข้าวและลดต้นทุนการผลิต เพื่อคงความสามารถในการแข่งขัน
ที่มา…http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/824390