นโยบายหลงทิศ ข้าวไทยใกล้ทางตัน

“วันนี้การแข่งขันตลาดค้าข้าวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไทยต้องมีนโยบายที่ชัดเจน ที่ผ่านมารัฐไม่ได้เข้ามาดูแลอย่างจริงจัง เพราะมัวแต่ไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่เคยดูแลการผลิตข้าวทั้งระบบ และปล่อยให้มีการผลิตด้วยความเคยชิน ขาดการศึกษาทิศทางตลาด ขณะที่พฤติกรรมการบริโภคในตลาดใหญ่ต้องการข้าวนิ่ม แต่ไทยไม่เคยทำ เลยทำให้ประเทศที่ผลิตข้าวนิ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะนำนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาใช้”

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวในเวทีเสวนาโต๊ะกลม “เสียงสะท้อนชาวนาไทยทั้งแผ่นดิน” จัดโดยกระทรวงพาณิชย์ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหาทางแก้ปัญหาการส่งออกข้าวไทย ที่วันนี้ประเทศคู่แข่งมีศักยภาพมากขึ้น

หากรัฐยังปิดตามุ่งพยุงราคาข้าวเปลือกให้สูงขึ้น ไม่มองปลายทางว่าตลาดต้องการข้าวแบบไหน อีกไม่นานตลาดข้าวไทยคงจะถึงทางตัน…ถึงเวลาแล้วที่วันนี้รัฐต้องนำผู้ประกอบการข้าวถุง โรงสี ชาวนา และกลุ่มผู้ค้ามาร่วมกันวางแผนยุทธศาสตร์ข้าวระยะยาว จะต้องปลูกข้าวสายพันธุ์อะไร ในพื้นที่ไหน ราคาขายและต้นทุนที่เหมาะสมควรอยู่เท่าไร

“การปรับปรุงพันธุ์ข้าวต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นที่ต้องการของตลาด วงการข้าวไทยต้องก้าวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก การส่งออกมากหรือน้อยไม่ใช่หลักใหญ่ สิ่งสำคัญอยู่ที่ราคาขาย ปลูกข้าวที่ตลาดต้องการ ซึ่งเวลานี้ตลาดหลักต้องการข้าวนิ่มที่มีอมิโลส 20 ซึ่งบ้านเราไม่เคยมีการส่งออก เพราะมุ่งแต่ทำตลาดข้าวหอมมะลิเกรดพรีเมียม”

นายมานัส กิจประเสริฐ อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย วิเคราะห์ถึงปัญหาที่ชาวนาประสบวันนี้ ใครกำหนดราคาข้าว ชาวนาคิดว่าโรงสีคือผู้กำหนด จริงๆแล้วตลาดโลกเป็นผู้กำหนด โดยยึดคุณภาพมาตรฐานข้าวที่ชาวนาผลิตมาเป็นเกณฑ์ ฉะนั้นวันนี้ชาวนาต้องเปลี่ยนมุมมองจากราคาเป็นตัวตั้ง มาแข่งขัน เปรียบเทียบกันที่ต้นทุนและคุณภาพผลผลิต แลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้รู้แนวทางการจัดการที่ถูกต้อง เพราะหากยังเน้นขายราคาแพง คุณภาพกลิ่นที่หอมน้อยลง ยังไงผู้ซื้อก็หนีไปหาข้าวนิ่มที่ราคาถูกกว่าอย่างแน่นอน

ด้าน นายเกษม ผลจันทร์ นายกสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายพันธุ์ข้าว สะท้อนว่า ถ้าไม่มีคู่แข่งก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เวลานี้ประเทศที่เคยซื้อข้าวเรา เปลี่ยนมาขายข้าวส่งออกเอง แต่ชาวนาไทยยังคงยึดวิถีต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างขาย ปีไหนข้าวราคาดี เกษตรกรเปลี่ยนพันธุ์เฮโลปลูกตามกันอย่างไม่มีแผนการปลูก สาเหตุหนึ่งมาจากชาวนาไม่รู้สถานการณ์ตลาดค้าข้าว ข้อมูลไม่เคยส่งถึงชาวนาได้อย่างทันเหตุการณ์ …ชาวนาไทยยังคงยึดข้อมูลในปีที่ผ่านมา โดยไม่รู้สถานการณ์ปีหน้าว่าตลาดโลกต้องการข้าวแบบไหน ลักษณะใด

ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลนี้ในเวทีเสวนาโต๊ะกลม ต่างเห็นพ้อง…สาเหตุมาจากรัฐหลงทาง ผู้ส่งออกไร้การเหลียวแล ข่าวสารข้อมูลถึงชาวนาอย่างเชื่องช้า และข้าวทุกเม็ดตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง.

ที่มา…..https://www.thairath.co.th/content/1400676