สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยส่งออกข้าว 11 เดือนมีปริมาณ 10,077,219 ตัน มูลค่า 163,130 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์เดือน ธ.ค. จะมีการส่งออกข้าวได้ที่ระดับ 1 ล้านตัน

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยในช่วง 11 เดือนปี 2561 (มกราคม-พฤศจิกายน) ระบุว่า มีปริมาณ 10,077,219 ตัน มูลค่า 163,130 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5,095 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยปริมาณส่งออกลดลง 4.2% แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวเวลาเดียวในปี 2560 ที่มีการส่งออกปริมาณ 10,518,112 ตัน มูลค่า 157,264 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4,637 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่การส่งออกข้าวในเดือนพ.ย. มีปริมาณ 1,028,115 ตัน มูลค่า 17,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 13.7%

ทั้งนี้ในเดือนพฤศจิกายนมีการส่งออกข้าวนึ่งปริมาณ 338,258 ตัน เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังตลาดประจำ เช่น เบนิน แอฟริกาใต้ เป็นต้น ขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิมีปริมาณ 138,094 ตัน เพิ่มขึ้น 41.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยตลาดหลักยังคงเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง แคนาดา เป็นต้น ขณะที่การส่งออกข้าวขาวมีปริมาณ 469,547 ตัน ลดลง 9.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังประเทศในแถบเอเชียและแอฟริกา เช่น ฟิลิปปินส์ เบนิน ญี่ปุ่น แองโกล่า มาเลเซีย โมซัมบิก สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ จีน เป็นต้น

อย่างไรก็ตามสมาคมฯคาดว่าในเดือนธันวาคมจะมีการส่งออกข้าวประมาณ 1 ล้านตัน เนื่องจากในช่วงเดือนธันวาคมนี้ผู้ส่งออกยังคงมีสัญญาส่งมอบข้าวอย่างต่อเนื่องทั้งสัญญาส่งมอบข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล ได้แก่ หน่วยงาน COFCO ของจีน และหน่วยงาน NFA ของฟิลิปปินส์ ขณะที่สัญญาส่งมอบข้าวของเอกชนก็ยังคงมีต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดในแถบแอฟริกา ประกอบกับตลาดที่นิยมบริโภคข้าวหอมมะลิฤดูใหม่ก็ยังคงนำเข้าต่อเนื่องเช่นเดียวกัน เช่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง และจีน ซึ่งจะส่งผลให้ปีนี้ประเทศไทยจะสามารถส่งออกได้ถึง 11 ล้านตันตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

สำหรับภาวะราคาข้าวในช่วงนี้ ราคาข้าวของไทยค่อนข้างทรงตัว โดยข้าวขาว 5% ที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประกาศเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ราคาอยู่ที่ 403 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวของประเทศคู่แข่งโดยเฉพาะเวียดนามมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ซึ่งเว็บไซต์ Oryza.com รายงานว่าข้าวขาว 5% ของเวียดนาม ราคาอยู่ที่ 375-379 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ลดลงจากเดือนที่ผ่านมาประมาณ 30 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนอินเดียและปากีสถานราคาอยู่ที่ 368-372 และ 353-357 เหรียญสหรัฐฯต่อตันตามลำดับ

ที่มา….https://www.thaipost.net/main/detail/25349